วัตถุประสงค์ ของ " คติพจน์ทางธรรม "
(1) เพื่อ...
ให้แง่คิดในรูปของ " คติธรรม นำทางชีวิต "
(2) เพื่อ...
นำทางให้ท่านได้พบกับสิ่งอันสวยงามตาม
ธรรมชาติในรูปของ " ธรรมะ "
ในเชิงเปรียบเทียบให้เห็นกันจริง ๆ
คติพจน์ทางธรรม
โดย อดีตพระรัฐติพงศ์
* * ผู้จัดทำเว็บไซต์ * *
..onethestar999....
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554
..... ภาพเปรียบเทียบ : ภาพที่ 1 " กฎแห่งกรรม "
.......... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 1 .......
ว่าด้วยเรื่อง : กฎแห่งกรรม
.............. กรรมเวร นั้นมีจริง ใครทำกรรมดี พูดดี กับคนอื่น ๆ ผลกรรมนั้นก็จะส่งผลให้เรามีจิตใจที่ดี / ตรงกันข้ามถ้าใครชอบประพฤติส่อไปทางไม่ดี เช่น ด่าพ่อ ด่าแม่ และมองไม่เห็นความหวังดีของคนอื่น ยโส อวดเก่ง ไม่รู้จักพี่รู้จักน้อง ไม่รู้จักบุญคุณคน ทำตัวใหญ่และเบ่งว่าตนเก่งไปเสียทุกเรื่อง มองคนอืนโง่กว่าตน และทำแต่ความชั่วต่าง ๆ ...ผลที่ได้รับจากการกระทำชั่วหรือสิ่งที่ไม่มีนั้นย่อมทำให้เป็นคนขาดเพื่อน ไร้ญาติ ไม่มีใครคบด้วย ในที่สุดก็ต้องจบชีวิตตนเองด้วยความว่างเปล่า...เพราะตอนเป็นมนุษย์ได้แต่มองโลกในแง่ร้าย และทำแต่สิ่งที่ให้โทษต่อตนเองจนตัวเองต้องมารับกรรมชั่วนั้นและในที่สุดก็ต้องพบกับมรสุมชีวิตที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้ !
........... ท่านมองตัวเองหรือยังว่า...ชอบมองคนอื่นในแง่ไหน และมองโลกในแง่ไหน ...ถ้าท่านคิดแต่ในแง่ลบบ่อย ๆ ท่านควรปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่...เพื่อตัวท่านเอง เพราะในโลกนี้ถ้าเปรียบกฎแห่งกรรมเป็น 3 สี ( ดังภาพที่ 1 ที่ผู้จัดทำเว็บไซต์ได้นำมาเปรียบเทียบ ) ท่านก็จะเห็นว่ามันมีอยู่ด้วยกัน 3 สีจริง ๆ ดังนี้ สีดำ สีเทา และสีขาว ถ้าท่านมองโลกในแต่เรื่องร้าย ๆ และทำแต่สิ่งที่ไม่ดีตามที่กล่าวมาข้างต้นท่านจัดอยู่ในกลุ่มสีดำ..... / แต่ถ้าท่านมองโลกในแง่สร้างสรรค์ ท่านอยู่ในกลุ่มสีเทา และหากท่านหรุดพ้นจากกิเลศ ได้แก่ ความโกรธ เกรียด อิจฉา , ความโลภ และความหลงต่าง ๆ นา นา ท่านจัดอยู่ในกลุ่มสีขาว และไม่ว่าท่านจะอยู่ในสีกลุ่มใด...ผลกรรมย่อมนำพาให้ท่านเป็นไปในทางทิศเดียวกันกับสีที่ท่านยึดอยู่กับมัน !
.............. หวังว่า ท่านคงเลือกที่จะอยู่กลุ่มสีขาว หรือ ไม่มีก็กลุ่มสีเทา นะครับ !
.......... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 1 .......
ว่าด้วยเรื่อง : กฎแห่งกรรม
.............. กรรมเวร นั้นมีจริง ใครทำกรรมดี พูดดี กับคนอื่น ๆ ผลกรรมนั้นก็จะส่งผลให้เรามีจิตใจที่ดี / ตรงกันข้ามถ้าใครชอบประพฤติส่อไปทางไม่ดี เช่น ด่าพ่อ ด่าแม่ และมองไม่เห็นความหวังดีของคนอื่น ยโส อวดเก่ง ไม่รู้จักพี่รู้จักน้อง ไม่รู้จักบุญคุณคน ทำตัวใหญ่และเบ่งว่าตนเก่งไปเสียทุกเรื่อง มองคนอืนโง่กว่าตน และทำแต่ความชั่วต่าง ๆ ...ผลที่ได้รับจากการกระทำชั่วหรือสิ่งที่ไม่มีนั้นย่อมทำให้เป็นคนขาดเพื่อน ไร้ญาติ ไม่มีใครคบด้วย ในที่สุดก็ต้องจบชีวิตตนเองด้วยความว่างเปล่า...เพราะตอนเป็นมนุษย์ได้แต่มองโลกในแง่ร้าย และทำแต่สิ่งที่ให้โทษต่อตนเองจนตัวเองต้องมารับกรรมชั่วนั้นและในที่สุดก็ต้องพบกับมรสุมชีวิตที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้ !
........... ท่านมองตัวเองหรือยังว่า...ชอบมองคนอื่นในแง่ไหน และมองโลกในแง่ไหน ...ถ้าท่านคิดแต่ในแง่ลบบ่อย ๆ ท่านควรปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่...เพื่อตัวท่านเอง เพราะในโลกนี้ถ้าเปรียบกฎแห่งกรรมเป็น 3 สี ( ดังภาพที่ 1 ที่ผู้จัดทำเว็บไซต์ได้นำมาเปรียบเทียบ ) ท่านก็จะเห็นว่ามันมีอยู่ด้วยกัน 3 สีจริง ๆ ดังนี้ สีดำ สีเทา และสีขาว ถ้าท่านมองโลกในแต่เรื่องร้าย ๆ และทำแต่สิ่งที่ไม่ดีตามที่กล่าวมาข้างต้นท่านจัดอยู่ในกลุ่มสีดำ..... / แต่ถ้าท่านมองโลกในแง่สร้างสรรค์ ท่านอยู่ในกลุ่มสีเทา และหากท่านหรุดพ้นจากกิเลศ ได้แก่ ความโกรธ เกรียด อิจฉา , ความโลภ และความหลงต่าง ๆ นา นา ท่านจัดอยู่ในกลุ่มสีขาว และไม่ว่าท่านจะอยู่ในสีกลุ่มใด...ผลกรรมย่อมนำพาให้ท่านเป็นไปในทางทิศเดียวกันกับสีที่ท่านยึดอยู่กับมัน !
.............. หวังว่า ท่านคงเลือกที่จะอยู่กลุ่มสีขาว หรือ ไม่มีก็กลุ่มสีเทา นะครับ !
...... ภาพเปรีบบเทียบ : ภาพที่ 2 " กรรมติดจรวด "
...... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 2
ว่าด้วยเรื่อง : กรรมติดจรวด
...... ท่านเห็นภาพนี้หรือไม่... ถ้าท่านคิดว่าในโลกนี้ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั่นหมายถึงท่านเข้าใจว่ากรรมมันติดจรวดจริง ๆ เพราะเดี๊ยวนี้ผลกรรมชั่วมันส่งผลมาให้รับกรรมในชาตินี้กันแล้ว...ไม่ต้องรอชาติหน้า... เพราะฉนั้นท่านจงอย่าได้คิดทำกรรมทำเวรให้กับใครเขา //// ในทางตรงกันข้าม..เพียงแต่ท่านหมั่นทำดีให้กับตัวเองมาก ๆ ผลกรรมดีก็จะติดตามตัวท่านตลอดไปเช่นกัน !
...... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 2
ว่าด้วยเรื่อง : กรรมติดจรวด
...... ท่านเห็นภาพนี้หรือไม่... ถ้าท่านคิดว่าในโลกนี้ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั่นหมายถึงท่านเข้าใจว่ากรรมมันติดจรวดจริง ๆ เพราะเดี๊ยวนี้ผลกรรมชั่วมันส่งผลมาให้รับกรรมในชาตินี้กันแล้ว...ไม่ต้องรอชาติหน้า... เพราะฉนั้นท่านจงอย่าได้คิดทำกรรมทำเวรให้กับใครเขา //// ในทางตรงกันข้าม..เพียงแต่ท่านหมั่นทำดีให้กับตัวเองมาก ๆ ผลกรรมดีก็จะติดตามตัวท่านตลอดไปเช่นกัน !
..... ภาพเปรียบเทียบ : ภาพที่ 3 " สติ "
..... คติพจน์ทางธรรม ... บทที่ 3 ...
ว่าด้วยเรื่อง : การมีสติ
.............ขอให้ท่าน ดูภาพที่ 3 นี้ก่อนแล้วจึงมาอ่านคำอธิบาย
..................เมื่อท่านดูเสร็จ ! ท่านคิดออกหรือยังว่า การมีสตินั้นจะทำให้ไม่หลงกลใครง่าย ๆ ในรูปผู้หญิงทางด้านขวามือกำลังทำท่าทำทางตามเจ้าหมี พอเจ้าหมีกางแขน เธอก็กางแขนตาม แต่ตอนที่เจ้าหมีดึงเสื้อขึ้น เธอกับไม่ทำตาม ( ถ้าเธอทำตามเจ้าหมีพวกเราคงเห็น...แล้วนะ ขนาดเจ้าหมียังอยากเห็นเลย ดูสีหน้าเจ้าหมีตอนที่อดดู " น_ " ซิ ) นี่แหละเขาเรียกว่า " การมีสติ " คนเรามักจะทำอะไรที่ผิดพลาดก็เพราะขาด " สติ " แต่ถ้าใครยึดมั่นในตนเอง มีสติตลอดเวลา ต่อให้ใครมาหลอกหลวงเราเราก็ไม่ถึงกับพรั้งเพลอทำอะไรไปตามใจที่ขาดสติ ซึ่งการขาดสติทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ กับเรามากมาย เช่น ขณะขับรถถ้าไม่มีสติ ก็เกิดอุบัติเหตุได้ , และถ้าหากเรามีปัญหาเรื่องครอบครัวเราขาดสติชีวิตของเราก็จะพังลงได้เพราะอาจเกิดการหย่าร้างเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไร้สติ ในทางตรงกันข้ามถ้าเรามีสติ ปัญหาทุกอย่างย่อมเบาบางและแก้ไขลงได้...ท่านควรฝึกตนให้มี " สติ " ตลอดเวลาเพื่อเป็นโล่ห์ป้องกันตัวนะครับ !
..... คติพจน์ทางธรรม ... บทที่ 3 ...
ว่าด้วยเรื่อง : การมีสติ
.............ขอให้ท่าน ดูภาพที่ 3 นี้ก่อนแล้วจึงมาอ่านคำอธิบาย
..................เมื่อท่านดูเสร็จ ! ท่านคิดออกหรือยังว่า การมีสตินั้นจะทำให้ไม่หลงกลใครง่าย ๆ ในรูปผู้หญิงทางด้านขวามือกำลังทำท่าทำทางตามเจ้าหมี พอเจ้าหมีกางแขน เธอก็กางแขนตาม แต่ตอนที่เจ้าหมีดึงเสื้อขึ้น เธอกับไม่ทำตาม ( ถ้าเธอทำตามเจ้าหมีพวกเราคงเห็น...แล้วนะ ขนาดเจ้าหมียังอยากเห็นเลย ดูสีหน้าเจ้าหมีตอนที่อดดู " น_ " ซิ ) นี่แหละเขาเรียกว่า " การมีสติ " คนเรามักจะทำอะไรที่ผิดพลาดก็เพราะขาด " สติ " แต่ถ้าใครยึดมั่นในตนเอง มีสติตลอดเวลา ต่อให้ใครมาหลอกหลวงเราเราก็ไม่ถึงกับพรั้งเพลอทำอะไรไปตามใจที่ขาดสติ ซึ่งการขาดสติทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ กับเรามากมาย เช่น ขณะขับรถถ้าไม่มีสติ ก็เกิดอุบัติเหตุได้ , และถ้าหากเรามีปัญหาเรื่องครอบครัวเราขาดสติชีวิตของเราก็จะพังลงได้เพราะอาจเกิดการหย่าร้างเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไร้สติ ในทางตรงกันข้ามถ้าเรามีสติ ปัญหาทุกอย่างย่อมเบาบางและแก้ไขลงได้...ท่านควรฝึกตนให้มี " สติ " ตลอดเวลาเพื่อเป็นโล่ห์ป้องกันตัวนะครับ !
........ภาพเปรียบเทียบ : ภาพที่ 4 " ความโมโห "
..... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 4 ......
ว่าด้วยเรื่อง : ความโกรธ หรือ ความโมโห
............ กิเลส ตัวหนึ่งคือ ความโกรธ ทุกคนมีกันทั้งนั้น... (หาอยากนะที่ใครจะไม่มีความโกรธเลย ) แต่ผลของมันอย่างในภาพ...เพราะความโกรธ คือ ความบ้า ใครโกรธคือคนบ้า ใครไม่โกรธคือคนไม่บ้า จำง่าย ๆ ผลของความโกรธทำให้เราขาดสติ ทำอะไรลงไปก็ไม่รู้สุดท้าย...ข้าวของก็เสียหายเพราะเวลาโกรธมักจะระบายออกด้วยการทำร้ายข้าวของ ทำร้ายคน ที่สำคัญทำร้ายจิตใจคนรอบข้างด้วย ขอเถอะครับ...ให้ท่านหยุดความโมโห ความโกรธ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของตัวท่านเอง และคนที่คุณรัก เพราะถ้าคุณโกรธบ่อย ๆ หรือ โมโหบ่อย ๆ ไม่นานหลอกครับ ! คนรอบข้างของคุณก็ขออำลาคุณไปโดยปริยาย....สุดท้ายคุณก็จะอยู่ในโลกนี้อย่างเดียวดายเพราะไม่มีใครเขาอยากจะคบหาสมาคมกับคุณด้วย... ! ไม่น่าเชื่อนะครับ ความโกรธ สามารถทำให้คนเรากลายเป็นคนที่แย่มาก ๆ ขนาดพ่อ แม่ พี่ น้อง ยังตัดขาดกันได้ถ้ามีความโกรธซึ่งกันและกัน ! ...ถ้าท่านอยากหายโกรธง่ายนิดเดียวครับ เพียงแต่ท่านมีคำว่า " การให้อภัย " กับคนที่ท่านโกรธท่านก็จะหายโกรธได้อย่างสิ้นเชิง ! ฝึกการให้อภัยเอาไว้ด้วยนะครับเพื่อท่านจะได้อยู่กับคนอื่น ๆ เขาได้อย่างมีความสุข !
..... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 4 ......
ว่าด้วยเรื่อง : ความโกรธ หรือ ความโมโห
............ กิเลส ตัวหนึ่งคือ ความโกรธ ทุกคนมีกันทั้งนั้น... (หาอยากนะที่ใครจะไม่มีความโกรธเลย ) แต่ผลของมันอย่างในภาพ...เพราะความโกรธ คือ ความบ้า ใครโกรธคือคนบ้า ใครไม่โกรธคือคนไม่บ้า จำง่าย ๆ ผลของความโกรธทำให้เราขาดสติ ทำอะไรลงไปก็ไม่รู้สุดท้าย...ข้าวของก็เสียหายเพราะเวลาโกรธมักจะระบายออกด้วยการทำร้ายข้าวของ ทำร้ายคน ที่สำคัญทำร้ายจิตใจคนรอบข้างด้วย ขอเถอะครับ...ให้ท่านหยุดความโมโห ความโกรธ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของตัวท่านเอง และคนที่คุณรัก เพราะถ้าคุณโกรธบ่อย ๆ หรือ โมโหบ่อย ๆ ไม่นานหลอกครับ ! คนรอบข้างของคุณก็ขออำลาคุณไปโดยปริยาย....สุดท้ายคุณก็จะอยู่ในโลกนี้อย่างเดียวดายเพราะไม่มีใครเขาอยากจะคบหาสมาคมกับคุณด้วย... ! ไม่น่าเชื่อนะครับ ความโกรธ สามารถทำให้คนเรากลายเป็นคนที่แย่มาก ๆ ขนาดพ่อ แม่ พี่ น้อง ยังตัดขาดกันได้ถ้ามีความโกรธซึ่งกันและกัน ! ...ถ้าท่านอยากหายโกรธง่ายนิดเดียวครับ เพียงแต่ท่านมีคำว่า " การให้อภัย " กับคนที่ท่านโกรธท่านก็จะหายโกรธได้อย่างสิ้นเชิง ! ฝึกการให้อภัยเอาไว้ด้วยนะครับเพื่อท่านจะได้อยู่กับคนอื่น ๆ เขาได้อย่างมีความสุข !
.....ภาพเปรียบเทียบ : ภาพที่ 5
" ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับตัวเรา...เราก็หัวเราะได้ "
.... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 5 ...
ว่าด้วยเรื่อง : ความทุกข์สยบด้วยความสุข....
" ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับตัวเรา...เราก็หัวเราะได้ "
.... คติพจน์ทางธรรม บทที่ 5 ...
ว่าด้วยเรื่อง : ความทุกข์สยบด้วยความสุข....
..... ชายคนนี้ไม่มีขาเขาก็ยังหัวเราะได้ แล้วคนที่มีขาทำไมมัวแต่เศร้าหรือทุกข์กับปัญหาต่าง ๆ ..คิดกันเอาเองก็แล้วกันนะครับ ! ถ้าคิดยังไม่ได้ผมบอกให้ก็ได้ครับ ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเราครับ เพราะใจทุกข์เราก็ทุกข์ ใจเราสุขเราก็หัวเราะได้ครับ ! เพราะฉนั้นทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ใจทั้งนั้นครับ !! แม้ร่างกายพิการแต่ใจเราไม่พิการเราก็หัวเราะได้ครับ ! ผมขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังมีความทุกข์ครับ ขอให้ท่านมีใจที่เป็นสุขท่านก็จะผ่านทุกข์นั้นไปได้และกลับมาหัวเราะได้อีกครับครับ !
.....ภาพเปรียบเทียบ : ภาพที่ 6 " มีเริ่มต้นก็มีสิ้นสุด "
........ ตัวเลขที่ปรากฎอยู่นี้ให้แง่คิด ได้ว่า จากศูนย์ ไป หนึ่ง ไป สอง แล้วก็ไป สาม ไปจนถึง เก้า และก็วนมาที่ ศูนย์ .... ! ! ! !
..................." ชีวิต ของคนเราก็ไม่ต่างไปจากนี้ เมื่อเกิดมาก็เริ่มจาก ศูนย์ แล้วก็ก้าวไป หนึ่ง ก้าวไป สอง ไปจนถึง เก้า และก็วนมาที่ ศูนย์ เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า สุดท้ายหรือท้ายสุด ! ก็ต้องตายกันทุกคนไม่ว่าท่านจะเกิดมาจนหรือเกิดมารวย " ! !
.............................. เพราะฉนั้น จงหาและทำสิ่งที่ดีที่สุด ! ให้กับชีวิต เพราะกว่าจะเกิดมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ขอให้ท่านที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของผมมีชีวิตที่ดีกันทุกคน ! ! ! !
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
.... บทลงโทษ สำหรับ คนที่มี " กิ๊ก " .....
...... ถ้าใครคิดเป็นชู้กับเมียคนอื่น โปรดดูภาพข้างล่างนี้... !
.......... 2 ภาพ ..ของ " บทลงโทษ " นี้
.....บอกให้คนที่กำลังทำผิดศิลใน " กาม " โปรดเลิกเสียมิฉะนั้นท่านจะได้รับผลกรรมไม่วันใดก็วันหนึ่ง ! เพราะ กฎแห่งกรรมไม่มีอายุความสิ้นสุด...มันจึงติดตัวเราไปตลอดชีวิต !
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
........ ตัวเลขที่ปรากฎอยู่นี้ให้แง่คิด ได้ว่า จากศูนย์ ไป หนึ่ง ไป สอง แล้วก็ไป สาม ไปจนถึง เก้า และก็วนมาที่ ศูนย์ .... ! ! ! !
..................." ชีวิต ของคนเราก็ไม่ต่างไปจากนี้ เมื่อเกิดมาก็เริ่มจาก ศูนย์ แล้วก็ก้าวไป หนึ่ง ก้าวไป สอง ไปจนถึง เก้า และก็วนมาที่ ศูนย์ เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า สุดท้ายหรือท้ายสุด ! ก็ต้องตายกันทุกคนไม่ว่าท่านจะเกิดมาจนหรือเกิดมารวย " ! !
.............................. เพราะฉนั้น จงหาและทำสิ่งที่ดีที่สุด ! ให้กับชีวิต เพราะกว่าจะเกิดมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ขอให้ท่านที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของผมมีชีวิตที่ดีกันทุกคน ! ! ! !
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
.... บทลงโทษ สำหรับ คนที่มี " กิ๊ก " .....
...... ถ้าใครคิดเป็นชู้กับเมียคนอื่น โปรดดูภาพข้างล่างนี้... !
.......... 2 ภาพ ..ของ " บทลงโทษ " นี้
.....บอกให้คนที่กำลังทำผิดศิลใน " กาม " โปรดเลิกเสียมิฉะนั้นท่านจะได้รับผลกรรมไม่วันใดก็วันหนึ่ง ! เพราะ กฎแห่งกรรมไม่มีอายุความสิ้นสุด...มันจึงติดตัวเราไปตลอดชีวิต !
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)